peerapong

peerapong

วันพฤหัสบดีที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2560

Experimental Music...ดนตรีทดลอง


ในงานเขียนภาษาอังกฤษ มีความหมายถึงรูปแบบการจัดวางดั้งเดิมที่เกิดขึ้นในกลางศตวรรษที่ 20 
โดยมากในอเมริกาเหนือที่หมายถึง การประพันธ์ดนตรีในรูปแบบใดรูปแบบหนึ่งที่ได้ผลมาแบบไม่สามารถคาดเดาได้ มีชื่อเสียงอย่างมากและมีผู้สนับสนุนอันมีอิทธิพลอย่าง 



จอห์น เคจ (อังกฤษJohn Cage) ส่วนในความหมายหลวมๆ แล้ว คำว่า "ทดลอง" (experimental) ใช้เป็นตัวเชื่อกับชื่อแนวเพลงที่อธิบายถึงดนตรีในทางเฉพาะที่ดันขอบเขตหรือนิยามหรืออย่างอื่นซึ่งเป็นสไตล์ลูกผสมที่แตกต่างอย่างมาก หรือแนวรวมแบบนอกคอก หรือส่วนผสมที่โดดเด่นแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดความโดดเด่นของดนตรีทดลองเด่นชัดขึ้นในปลายคริสต์ทศวรรษ 1950 ที่อธิบายถึงการประพันธ์โดยการควบคุมของคอมพิวเตอร์ ซึ่งในบางครั้งก็จะใช้เรียกว่า ดนตรีอีเลกโทรนิก และ musique concrète






สิ่งที่นักแต่งเพลง Experimental Music 

           ทำจึงเป็นการดึงเพลงดนตรีให้เข้ามาใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันมากขึ้น โดยแสดงให้เห็นว่าดนตรีไม่ใช่เรื่องศักดิ์สิทธิ์ โดยอาศัยแนวคิดใหม่ๆ มาทำการท้าทายขนบแบบเดิมๆ ของดนตรีตะวันตกผลที่ได้คือนักแต่งเพลงแบบใหม่นี้ไม่ให้ความสนใจกับความไพเราะของเพลง เพราะความไพเราะของเพลงนั้นเป็นสิ่งที่ไม่มีอยู่จริง และเป็นการเรียนรู้ทางวัฒนธรรมชนิดหนึ่งเท่านั้น เช่นการจะเข้าใจงานของ Beethoven ว่าไพเราะอย่างไรตรงไหน ย่อมต้องอาศัยภูมิความรู้ทางวัฒนธรรมแบบ “ตะวันตก” ก่อน จึงจะสามารถเข้าใจได้ เป็นต้นการข้ามให้พ้นพรมแดนทางวัฒนธรรมไปสู่ “เสียง” ที่เป็น “สากล” จึงเป็นเป้าหมายหลักของนักแต่งเพลงชนิดนี้ จนถึงขนาดที่ไม่ให้ความสำคัญกับความเป็น “ดนตรี” อีกต่อไป และเรียกวิธีการทำงานของพวกตนว่าเป็นเพียงการจัดการกับ “เสียง” เท่านั้น (organized sound)เมื่อใช้คำว่า “เสียง” จึงไม่ได้หมายความถึงเสียงที่เพียงเกิดจากไวโอลินหรือเปียโนเท่านั้น แต่เสียงของนักแต่งเพลง Experimental หมายถึงเสียงทุกชนิดที่ดำรงอยู่ในโลก
กลุ่ม Fluxus ในทศวรรษที่ 1960 ได้รับอิทธิพลวิธีคิดนี้จากกลุ่มของ John Cage และยังได้รับอิทธิพลส่วนหนึ่งจากกลุ่ม Neo-Dadaism ในอเมริกาช่วงนั้นด้วย ดังจะเป็นได้จากส่วนหนึ่งของแถลงการณ์กลุ่ม Fluxus ที่ว่าจะ


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น