Camille Saint-Saens บทเพลงคลาสสิคกับสวนสัตว์
The Carnival of the Animals (Le carnaval des animaux)
จัดเป็นเพลงชุดประเภทสวีต suite ประกอบด้วยทำนองแตกต่างกัน 14 ทำนองผู้ประพันธ์คือ คามิล แซงต์ซองส์ Camille Saint-Saëns คีตกวีชาวฝรั่งเศสในยุคโรแมนติคแซงต์ซองส์ประพันธ์สวีตชุดนี้ระหว่างที่เขาท่องเที่ยวอยู่ในออสเตรียในปี 1886
จัดเป็นเพลงชุดประเภทสวีต suite ประกอบด้วยทำนองแตกต่างกัน 14 ทำนองผู้ประพันธ์คือ คามิล แซงต์ซองส์ Camille Saint-Saëns คีตกวีชาวฝรั่งเศสในยุคโรแมนติคแซงต์ซองส์ประพันธ์สวีตชุดนี้ระหว่างที่เขาท่องเที่ยวอยู่ในออสเตรียในปี 1886
เครื่องดนตรีประกอบด้วย
1.เปียโน2หลัง
2.ไวโอลิน
3.ไวโอลา
4.เชลโล
5.ดับเบิลเบ
6.ขลุ่ย
7.ปี่คลาริเนต
8.ฮาร์โมนิกา
9.ระนาด
1.เปียโน2หลัง
2.ไวโอลิน
3.ไวโอลา
4.เชลโล
5.ดับเบิลเบ
6.ขลุ่ย
7.ปี่คลาริเนต
8.ฮาร์โมนิกา
9.ระนาด
ขบวนสิงสาราสัตว์ทั้ง 11 ชนิดตามลำดับได้แก่ สิงโตเจ้าป่า, ไก่ฟ้า, ม้าป่า, เต่า, ช้าง, จิงโจ้, สัตว์น้ำ, สัตว์หูยาวประเภทลา, นกกลางคืนในป่าลึก, นก, นักเปียโน, ซากดึกดำบรรพ์, หงส์(ที่กำลังจะตาย) และบทส่งท้ายเพลง แม้ว่าจะเป็นเพลงที่แต่งมาล้อเลียนอากัปกิริยาของสัตว์ประเภทต่างๆ แต่สิ่งหนึ่งที่สะท้อนออกมาเป็นอย่างดีคือมนุษย์ล้วนมีอากัปกิริยาบางส่วนที่ไม่ต่างจากสัตว์ ในท่อนนักเปียโน ค่อนข้างชัดเจนถึงความขัดแย้งในตัวเอง การแข่งขัน และศักดิ์ศรีที่วางไม่ลง
ในงาน Suite ชุดนี้ประกอบไปด้วย
1.Introduction et marched du Lion (Introduction and Royal March of the Lion) เพลงเปิดตัวที่ใช้เครื่องสายและเปียโนคู่ฟังดูอลังการ่ และเพลงมาร์ชที่มีเปียโนกระหน่ำเป็นพระเอก สลับกับเครื่องสาย ฟังคล้ายราชสีห์ย่างกราย
2.Poules et Cogs (Hens and Roosters) แม่ไก่ กะ ไก่ชน พากันจิกกินเมล็ดพืชอย่างเมามันส์ ผ่านเสียงเปียนโนและเครื่องสาย โดยมีคลาริเน็ทมาแจมเป็นพักๆ
3.Hemiones (animaux veloces) (Wild Asses; quick animal)
เปียโนคู่จำลองการวิ่งไล่กวดกันของสัตว์อะไรสักอย่างที่วิ่งเร็วโคตร อาจนึกภาพให้เป็นกิ้งก่าซิ่งก็ไม่ผิดกติกา
4.Tourtues (Tortoises) เครื่องสายและเปียโนบรรเลงบทเพลงช้าๆมีสเน่ห์ ฟังดูอายุยืนเหมือนเต่า เพลงนี่มีการแฝงมุข(โบราณ) นำเมโลดี้จากเพลงเกี่ยวกับใต้น้ำ(Orpheus in the Underworld ของ Offenbach)มาซ่อนไว้ด้วย
5.L’Elephant (The Elephant)
ดับเบิ้ลเบสมารับบทบาทเป็นช้าง โดยมีเสียงเปียโนสูงๆมาดับความอืดอาดจากเสียงต่ำๆของเบส เพลงนี้ก็มีการหยิบงานของศิลปินอื่นมาล้อเลียนเช่นเคย โดยคราวนี้เป็นเมโลดี้ของ Felix Mendelssohn (Midsummer Night’s Dream) และ Hector Berlioz (Dance of the Silphs) ซึ่งเพลงต้นตำหรับทั้งสองนั้น จริงๆแล้ว บรรเลงโดยเครื่องดนตรีเสียงสูง แต่ Saint-Saens จับมาเล่นแบบต่ำสุดๆ
6.Kangourous (Kangaroos)
จิงโจ้กระโดดหยองแหยงไปพักไปผ่านเสียงเปียโน ฟังแล้วเห็นภาพ
7.Aquarium
เพลงนี้ประโคมโดยเครื่องสายเสียงสูง เปียโนคู่ ฟลุ๊ต และ Glass harmonica (ระนาดฝรั่ง) ให้ความรู้สึกลึกลับล่องลอย ประหนึ่งดำดิ่งลงสู่ใต้น้ำ และนี่คือต้นแบบของเพลงเปิดตัวอนิเมชั่น Beauty and the Beast ของดีสนีย์ นอกจากนั้นล่าสุดยังถูกใช้เป็นเพลงประกอบเทรลเลอร์ของหนังเรื่อง Charlotte’s Web ไปเมื่อไม่นานมานี้ ลองฟังดูจะร้องอ๋อ
8.Personnages a longues oreilles (Characters with long Ears)
เพลงกวนประสาท บาดหูด้วยเสียงไวโอลินสูงปี๊ด สลับกับเสียงต่ำ พาให้มโนภาพเห็นตัวประหลาดหูยาวๆ น่ากลัวพิลึกกึกกือ
9.Le Coucou au fond des bois (The Cuckoo in the Depths of the Woods)
เปียโนสองหลังกับคลาริเนต จำลองเสียงและบรรยากาศของนกกุ๊กกูร้องขับขานเจื้อยแจ้วในป่าลึก
10.Vollere (Aviary)
เสียงฟลุ๊ตเลียนเสียงนก Aviary ตัวน้อยสีสดที่บินไปมาในป่า โดยมีเสียงเปียโน เชลโล่ ดับเบิลเบส สร้างบรรยากาศของป่าลึกอยู่ข้างหลัง
11.Pianistes (Pianists)
ในเมื่อคนก็เป็นสัตว์ นักเปียโนก็เป็นคน จึงมีเพลงนี้ขึ้นมา จำลองการซ้อมเปียโนอย่างบ้าบิ่นของนักเปียโน ก่อนจะแอบเอาเมโลดี้ของ Rachmaninoff (Piano Concerto No.3) มาแซวเล่นตอนท้าย
12.Fossilles (Fossills)
นี่คือเหตุการณ์กลางดึกในพิพิธภัณฑ์ เมื่อเหล่าโครงกระดูกไดโนเสาร์ พากันออกมาเต้นรำกันอย่างครื้นเครง ผ่านเสียงไซโลโฟน
13.Le Cygne (The Swan)
บทเพลงอันงดงามด่ังราชินีหงส์ ชิ้นงานที่โด่งดังที่สุดชิ้นหนึ่งของ Saint-Saens จัดเป็นเพลงสำหรับเชลโลที่โด่งดังที่สุดเพลงหนึ่งในโลกหล้า
14.Finale
เริ่มคล้ายๆเพลงเปิด ก่อนจะทิ้งทวนด้วยการวาดลวดลายของเครื่องดนตรีต่างๆอย่างสนุกสาน เป็นอันปิดฉากโลกขอสัตว์ลงอย่างเป็นทางการ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น